กระชาย หรืออีกชื่อหนึ่ง คือกระชายขาว เป็นพืชสมุนไพรที่นำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารไทยหลากหลายเมนู เช่นขนมจีนน้ำยา ผัดฉ่า แกงเลียง แกงป่า เป็นส่วนประกอบในเครื่องแกงหลายชนิด และยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น อีกทั้งมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย
กระชายช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า ปรับธาตุต่างๆ ในร่างกายให้เกิดการสมดุล แก้อาการลมวิงเวียน และแน่นหน้าอก ส่วนที่เป็นแทงยาวเรียกว่านมกระชาย ช่วยบำรุงกำลัง และเสริมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย ส่วนที่เป็นเม็ดกลมบ้างรีบ้างติดกับนมกระชาย เรียกว่าเง่ากระชาย ตรงส่วนนี้ใช้สำหรับบำรุงสตรี กระชายมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง และโรคในช่องปาก มีสารสำคัญที่สามารถต้านไวรัสได้หลายชนิด เช่นไวรัสไข้เลือดออก
ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารให้ทำงานได้ดี
ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ บำรุงหัวใจให้แข็งแรง บำรุงสมองและระบบประสาท บำรุงกระดูกให้แข็งแรง
ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติที่สมควร
เครื่องดื่มน้ำกระชาย
1.กระชาย 200 กรัม ล้างทำความสะอาดให้ดี (ใช้ทั้งนมกระชาย และเง่ากระชาย)
2.น้ำดื่ม 1000 ml (นำไปปั่นกับกระชาย แล้วกรองเอาเอาแต่น้ำเก็บแช่ตู้เย็นไว้
เวลานำมาทำเครื่องดื่ม ให้ผสมโซดา และน้ำผึ้งกับมะนาว ชิมรสชาติตามชอบ
ข่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ และสรรพคุณมากมาย เป็นได้ทั้งอาหาร และยา
ในด้านของอาหาร เนื่องด้วยข่ามีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว มีรสเผ็ดปร่า และกลิ่นหอมที่ช่วยดับคาวจากเนื้อสัตว์ได้
ส่วนใหญ่มักจะนำข่ามาเป็นส่วนประกอบของอาหารที่มีรสจัด และมีความคาวของเนื้อสัตว์ เช่น ต้มโคล้ง ต้มยำ ต้มแซ่บ และยังนำมาเป็นส่วนประกอบของเครื่องแกงต่างๆ เช่น เครื่องแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด พะแนง แกงกะหรี่ มัสมั่นเป็นต้น
สรรพคุณทางยาของข่า
ช่วยในการย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลมในกระเพาะ และลำไส้ รักษาโรคผิวหนัง ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย เช่น กลาก เกลื้อน และโรคผิวหนังจากเชื้อราอื่นๆ ช่วยลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดต่างๆ แก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยลดอาการปวดและบวม ช่วยขับเสมหะ ช่วยบรรเทาอาการหวัดและไอ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
พาทุกคนมาขึ้นเหนือกับเมนูเด็ด อย่าง ‘น้ำพริกอ่อง’ อาหารเหนือที่มีรสชาติกลมกล่อมมีรากฐานจากวัฒนธรรมการทำอาหารของชาวล้านนา ด้วยเครื่องแกงที่โครกสด ๆ ผัดจนมีกลิ่นหอมฟุ้ง กับรสเผ็ดนิด ๆ หวานหน่อย ๆ ถูกปากคนทุกเพศทุกวัย ยิ่งชาวเหนือที่มาอยู่กรุงเทพฯ คงจะคิดถึง ‘น้ำพริกอ่อง’ ถ้วยนี้เลยใช่ไหมล่ะคะ ใครที่เคยไปเที่ยวเหนือแล้วไม่ได้ทาน บอกเลยว่าพลาด แต่ไม่ต้องเสียดายไป วันนี้เรามีสูตรการทำน้ำพริกอ่องแบบต้นตำรับ ที่สามารถรังสรรค์ได้เองที่บ้านมาฝากเพื่อน ๆ ชาวยิบอินซอยทุกคน
อย่างแรกต้องเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม เริ่มจากเตรียม
มะเขือเทศเชอรี่ 20 ลูก
หมูสับติดมัน 300 กรัม
พริกแห้ง 5 เม็ด
กระเทียม 1 หัว (สำหรับใส่ในเครื่องแกง)
กระเทียม 1 หัว (สำหรับผัดในเครื่องแกง)
หอมแดง 2 หัว
กะปิ 1 ส่วน 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1 ช้อนชา
น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม / ผักชี 1 ต้น
น้ำเปล่า 1 ส่วน 2 ถ้วย
ขั้นตอนต่อไปวิธีการทำน้ำพริกอ่อง
Step 1: เตรียมน้ำพริกอ่อง ด้วยการโขลกพริกแห้ง ใส่หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง เกลือ กะปิ โขลกให้ละเอียด
Step 2: ตั้งกระทะใส่น้ำมันเอากระเทียมบุบลงเจียว ให้มีสีเหลืองเล็กน้อย เอาน้ำพริกที่โขลกไว้ใส่ลงไปผัดให้หอม ตามด้วยหมูสับ หากผัดแล้วดูแห้งเกินไปเติมน้ำเล็กน้อย พอหมูใกล้สุกใส่มะเขือเทศตามลงไป ผัดจนมะเขือเทศสุกเละ ปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา
Step 3: ปิดไฟแล้วตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยต้นซอย ผักชีซอย ‘น้ำพริกอ่อง’ รสลำ ๆ ก็พร้อมรับประทานแล้ว
น้ำพริกอ่อง สูตรต้นตำรับชาวล้านนา ภาคเหนือ จะทานแกล้มกับผักสด อย่าง มะเขือเปราะ แครอท แตงกวา และผักพื้นบ้าน หรือ ไข่ต้ม แคบหมู ข้าวเหนียว คลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็เข้ากันได้ดีแบบสุด ๆ อย่าลืมแบ่งปันความอบอุ่นของน้ำพริกถ้วยนี้กับคนที่คุณรักด้วยล่ะ